การปรับปรุงสมบัติของวัสดุคอมโพสิตยาง/เส้นใยธรรมชาติ เพื่อผลิตเป็นยางแผ่นปูพื้นกันลื่นปราศจากเชื้อราด้วยสารคัดหลั่งจากครั่งสำหรับผู้สูงอายุ กรณีศึกษา: สถานสงเคราะห์คนชรา จังหวัดนครปฐม
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการพัฒนายางแผ่นปูพื้นกันลื่นปราศจากเชื้อราสำหรับผู้สูงอายุ โดยใช้ยางธรรมชาติเป็นฐาน ผสมผสานกับเส้นใยธรรมชาติอย่างผักตบชวาและชานอ้อย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดต้นทุน จุดเด่นสำคัญคือการใช้เชลแลคจากครั่ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ร่วมกับกรดสเตียริกในการวัลคาไนเซชัน เพื่อปรับปรุงสมบัติเชิงกลและคุณสมบัติต้านเชื้อราของยาง การเลือกใช้เส้นใยผักตบชวาและชานอ้อย นอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้วยังสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เนื่องจากเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การปรับสภาพเส้นใยด้วยโซเดียมไฮดรอกไซด์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับยางธรรมชาติ
อัตราส่วนของเชลแลคและกรดสเตียริกที่ 75:25 ถือเป็นการทดลองหาจุดสมดุล โดยอาจมีการศึกษาอัตราส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อหาค่าที่เหมาะสมที่สุด การใช้เชลแลคเป็นสารเคลือบผิว นอกจากจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อราแล้ว ยังอาจมีผลต่อความทนทานต่อการสึกหรอและความสวยงามของผลิตภัณฑ์ การทดสอบ Pendulum Test Value (PTV) แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการลดการลื่นไถลของยางแผ่นปูพื้น ซึ่งสำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อการลื่นล้ม การทดสอบกับเชื้อรา Aspergillus niger และแบคทีเรีย Salmonella S.aureus และ E.coli ยืนยันประสิทธิภาพของการป้องกันเชื้อราและแบคทีเรียของวัสดุที่พัฒนาขึ้น
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังมีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณา เช่น การศึกษาความทนทานของยางแผ่นปูพื้นในระยะยาว ภายใต้สภาวะการใช้งานจริง ซึ่งอาจรวมถึงการทดสอบความต้านทานต่อสารเคมี ความร้อน และความชื้น ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้งานจากการสัมผัสกับเชลแลคในระยะยาว แม้ว่าเชลแลคเป็นสารธรรมชาติ แต่ก็จำเป็นต้องมีการประเมินความปลอดภัยอย่างละเอียด การศึกษาขนาดตัวอย่างและสถิติที่ใช้ในการวิจัย ควรมีรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในผลการวิจัย การเปรียบเทียบกับยางแผ่นปูพื้นที่มีจำหน่ายในท้องตลาด จะช่วยให้เห็นภาพความได้เปรียบและข้อดีของวัสดุที่พัฒนาขึ้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การพิจารณาถึงต้นทุนการผลิตในเชิงพาณิชย์ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์นี้สามารถแข่งขันในตลาดได้ การวิเคราะห์ต้นทุน รวมถึงราคาของวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และการตลาด ควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ การศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรต่างๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต ก็มีความสำคัญเช่นกัน การออกแบบให้สวยงามและใช้งานได้จริง เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญต่อการยอมรับของผู้บริโภค งานวิจัยนี้จึงควรพิจารณาถึงการออกแบบที่สวยงามและเหมาะสมกับผู้สูงอายุ รวมทั้งการพัฒนาแพคเกจจิ้งและการตลาดที่เหมาะสม
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่ผลิตวัสดุสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เนื่องจากยางแผ่นปูพื้นที่พัฒนาขึ้นมีคุณสมบัติในการกันลื่น ป้องกันเชื้อรา และผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้ ยังเหมาะสมกับอุตสาหกรรมยาง เนื่องจากนำยางธรรมชาติมาใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยแก้ปัญหาเรื่องราคายางพาราตกต่ำ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ก็สามารถนำผลงานวิจัยนี้ไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับนักวิจัยด้านวัสดุศาสตร์ วิศวกรเคมี และวิศวกรโยธา ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาและวิเคราะห์สมบัติของวัสดุ สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาต่อยอดงานวิจัยนี้ได้ นอกจากนี้ ยังเหมาะกับนักออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่สามารถออกแบบยางแผ่นปูพื้นให้มีความสวยงามและใช้งานได้จริง สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ประกอบการ SME ในด้านวัสดุก่อสร้าง และผู้ที่สนใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ ก็สามารถนำงานวิจัยนี้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบธุรกิจได้
| รหัสโครงการ : | 5755 |
| หัวหน้าโครงการ : | ผศ.ดร. ธีรินทร์ คงพันธุ์ |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | แผนงาน หรือชุดโครงการ |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้อย่างมีคุณค่า และปลอดภัย เพื่อหาอัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างกรดสเตียริกต่อเชลแลคที่ใช้ในกระบวนการวัลคาไนเซชัน เพื่อให้ได้สมบัติเชิงกลที่สูงขึ้น เพื่อศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการเคลือบเชลแลคลงบนยางแผ่นปูพื้นเพื่อให้ได้การยึดเกาะที่ดีที่สุด เพื่อศึกษาสมบัติเชิงกลของยางแผ่นปูพื้นที่ใช้กำมะถัน/เชลแลคในการวัลคาไนเซชัน เพื่อศึกษาการต้านทานการเกิดเชื้อราหลังจากเคลือบเชลแลคลงบนยางแผ่นปูพื้น |
ผศ.ดร. ธีรินทร์ คงพันธุ์. (2563). การปรับปรุงสมบัติของวัสดุคอมโพสิตยาง/เส้นใยธรรมชาติ เพื่อผลิตเป็นยางแผ่นปูพื้นกันลื่นปราศจากเชื้อราด้วยสารคัดหลั่งจากครั่งสำหรับผู้สูงอายุ กรณีศึกษา: สถานสงเคราะห์คนชรา จังหวัดนครปฐม. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, ปทุมธานี.
ผศ.ดร. ธีรินทร์ คงพันธุ์. 2563. "การปรับปรุงสมบัติของวัสดุคอมโพสิตยาง/เส้นใยธรรมชาติ เพื่อผลิตเป็นยางแผ่นปูพื้นกันลื่นปราศจากเชื้อราด้วยสารคัดหลั่งจากครั่งสำหรับผู้สูงอายุ กรณีศึกษา: สถานสงเคราะห์คนชรา จังหวัดนครปฐม". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, ปทุมธานี.
ผศ.ดร. ธีรินทร์ คงพันธุ์. "การปรับปรุงสมบัติของวัสดุคอมโพสิตยาง/เส้นใยธรรมชาติ เพื่อผลิตเป็นยางแผ่นปูพื้นกันลื่นปราศจากเชื้อราด้วยสารคัดหลั่งจากครั่งสำหรับผู้สูงอายุ กรณีศึกษา: สถานสงเคราะห์คนชรา จังหวัดนครปฐม". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์, 2563. กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, ปทุมธานี.
ผศ.ดร. ธีรินทร์ คงพันธุ์. การปรับปรุงสมบัติของวัสดุคอมโพสิตยาง/เส้นใยธรรมชาติ เพื่อผลิตเป็นยางแผ่นปูพื้นกันลื่นปราศจากเชื้อราด้วยสารคัดหลั่งจากครั่งสำหรับผู้สูงอายุ กรณีศึกษา: สถานสงเคราะห์คนชรา จังหวัดนครปฐม. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์; 2563. กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, ปทุมธานี.