กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี

การพัฒนาไมโครพอรัสโฟมคอมโพสิทที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่มีส่วนผสมของพอลิแลกติกแอซิดและยางธรรมชาติสำหรับวัตถุชิ้นเล็ก

... 14 กุมภาพันธ์ 2568
การพัฒนาไมโครพอรัสโฟมคอมโพสิทที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่มีส่วนผสมของพอลิแลกติกแอซิดและยางธรรมชาติสำหรับวัตถุชิ้นเล็ก
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาโฟมคอมโพสิตไมโครพอรัสจากพอลิแลกติกแอซิด (PLA) และยางธรรมชาติ (NR) ผสมกับเส้นใยชานอ้อย เพื่อสร้างวัสดุบรรจุภัณฑ์ชีวภาพย่อยสลายได้สำหรับวัตถุชิ้นเล็ก การเลือกใช้ PLA เป็นวัสดุฐานเนื่องจากเป็นพอลิเมอร์ชีวภาพที่มีคุณสมบัติเชิงกลที่ดี สามารถขึ้นรูปได้ง่าย ปลอดภัย และสามารถผลิตได้จากทรัพยากรหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม PLA มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ราคาสูง ความเสถียรทางความร้อนต่ำ ความเปราะ และสมบัติการกั้นกั้นที่ไม่ดี การนำยางธรรมชาติมาผสมจึงเป็นการแก้ไขข้อด้อยเหล่านี้โดยเพิ่มความเหนียวและลดต้นทุน การเติมเส้นใยชานอ้อยเข้าไปยิ่งช่วยปรับสมดุลให้โฟมมีความเหนียวและแข็งแรงขึ้น

กระบวนการผลิตโฟมคอมโพสิตใช้เทคนิคการอัดขึ้นรูปร้อน (compression molding) โดยมีการผสมวัสดุด้วยเครื่องอัดรีดเกลียวคู่ก่อน การปรับสัดส่วนของ PLA, NR และเส้นใยชานอ้อยมีความสำคัญต่อสมบัติของโฟม งานวิจัยได้ทดลองหลายสัดส่วนและพบว่าสัดส่วน P20R80F5N2 ให้สมบัติเชิงกลและความร้อนที่ดีที่สุด การดัดแปลงเส้นใยชานอ้อยด้วยสารละลาย NaOH ก็มีผลต่อคุณสมบัติของโฟม

การวิเคราะห์สมบัติของโฟมใช้เทคนิคต่างๆ เช่น Differential Scanning Calorimetry (DSC) Thermogravimetric Analysis (TGA), Universal Tensile Testing และ Scanning Electron Microscopy (SEM) เพื่อศึกษาสมบัติทางความร้อน สมบัติเชิงกล และโครงสร้างจุลภาคของโฟม นอกจากนี้ยังใช้ Fourier Transform Infrared Spectroscopy (FTIR) ในการวิเคราะห์โครงสร้างของเส้นใยชานอ้อยทั้งแบบดัดแปลงและไม่ดัดแปลง

งานวิจัยนี้มีความสำคัญในแง่ของการพัฒนาใช้วัสดุชีวภาพเพื่อทดแทนพลาสติกจากปิโตรเลียมที่ไม่ย่อยสลายได้ การนำยางพาราและเส้นใยชานอ้อยซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรของไทยมาใช้ ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรและลดปริมาณขยะพลาสติก การใช้เทคนิคการผลิตที่เหมาะสมและการวิเคราะห์สมบัติที่ครอบคลุม ทำให้ผลงานวิจัยมีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปต่อยอดได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การศึกษาควรขยายไปสู่การทดสอบสมบัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานบรรจุภัณฑ์ เช่น สมบัติการกันซึม การทนต่อความชื้น และความคงทน รวมถึงการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างละเอียด เช่น การย่อยสลายในสภาพแวดล้อมต่างๆ และการวิเคราะห์วงจรชีวิต (Life Cycle Assessment) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าชิ้นเล็ก เช่น ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องสำอาง อาหาร และยา เนื่องจากโฟมที่พัฒนาขึ้นมีความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีคุณสมบัติเชิงกลที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน นอกจากนี้ ยังเหมาะกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปยางพาราและชานอ้อย เนื่องจากช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรเหล่านี้ และยังสามารถต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมที่ต้องการวัสดุที่มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่น และสามารถขึ้นรูปได้ง่าย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมก่อสร้าง

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะสำหรับนักวิทยาศาสตร์วัสดุ วิศวกรเคมี วิศวกรพอลิเมอร์ และนักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้ที่ทำงานในด้านการพัฒนาและวิจัยวัสดุใหม่ๆ โดยเฉพาะวัสดุชีวภาพ การมีพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์วัสดุ เคมีพอลิเมอร์ และเทคนิคการวิเคราะห์วัสดุต่างๆ เช่น DSC, TGA, SEM, FTIR จะเป็นประโยชน์อย่างมาก นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการสร้างนวัตกรรมจากทรัพยากรท้องถิ่น อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะและการรีไซเคิลก็สามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน

 

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 7216
หัวหน้าโครงการ : นางธาริณี นามพิชญ์
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อพัฒนาโฟมชีวภาพจากพอลิเมอร์ชีวภาพฐานพอลิแลกติกแอซิดและยางพารา เพื่อใช้ในงานขนส่ง 2. เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ 3. เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้จากการใช้งาน 4. ส่งเสริมการใช้งานบรรจุภัณฑ์จากวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ 5. ช่วยในการแก้ไขปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายไม่ได้ให้ลดลง

นางธาริณี นามพิชญ์. (2563). การพัฒนาไมโครพอรัสโฟมคอมโพสิทที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่มีส่วนผสมของพอลิแลกติกแอซิดและยางธรรมชาติสำหรับวัตถุชิ้นเล็ก. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, ระยอง.

นางธาริณี นามพิชญ์. 2563. "การพัฒนาไมโครพอรัสโฟมคอมโพสิทที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่มีส่วนผสมของพอลิแลกติกแอซิดและยางธรรมชาติสำหรับวัตถุชิ้นเล็ก". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, ระยอง.

นางธาริณี นามพิชญ์. "การพัฒนาไมโครพอรัสโฟมคอมโพสิทที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่มีส่วนผสมของพอลิแลกติกแอซิดและยางธรรมชาติสำหรับวัตถุชิ้นเล็ก". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2563. กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, ระยอง.

นางธาริณี นามพิชญ์. การพัฒนาไมโครพอรัสโฟมคอมโพสิทที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่มีส่วนผสมของพอลิแลกติกแอซิดและยางธรรมชาติสำหรับวัตถุชิ้นเล็ก. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์; 2563. กรุงเทพมหานคร, ปทุมธานี, ระยอง.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา