กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี

การพัฒนาเมมเบรนพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตสำหรับบำบัดน้ำเสียในถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน

... 14 กุมภาพันธ์ 2568
การพัฒนาเมมเบรนพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตสำหรับบำบัดน้ำเสียในถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้มุ่งเน้นการพัฒนาเมมเบรนจากพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) สำหรับใช้ในระบบบำบัดน้ำเสียด้วยถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน (MBR) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพสูง จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการนำวัสดุเหลือใช้จากขวด PET ที่ใช้งานแล้วมาใช้ในการผลิตเมมเบรน ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้และลดปริมาณขยะไปพร้อมๆ กัน การวิจัยครอบคลุมตั้งแต่การทดลองหาสภาวะการเตรียมเมมเบรนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากชนิดและปริมาณของตัวทำละลาย ตัวไม่ละลาย และสารเติมแต่ง จนถึงการทดสอบประสิทธิภาพของเมมเบรนทั้งในเชิงสัณฐานวิทยา อัตราการไหลผ่าน และประสิทธิภาพการกรอง การศึกษาเปรียบเทียบเมมเบรนที่ผลิตจาก PET ใหม่กับ PET รีไซเคิล เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น การบำบัดน้ำเสีย

กระบวนการผลิตเมมเบรนในงานวิจัยนี้เริ่มจากการละลาย PET ด้วยกรดไตรฟลูโอโรอะซิติก ซึ่งเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างเฉพาะทาง จำเป็นต้องมีการควบคุมเงื่อนไขอย่างเข้มงวดเพื่อให้ได้เมมเบรนที่มีคุณภาพ การเลือกใช้ตัวไม่ละลายอย่างน้ำ เอทานอล และเอทิลีนไกลคอล และการเติมสารเพิ่มประสิทธิภาพอย่าง PEG-1000 และ Tween-20 สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในสมบัติของวัสดุและการควบคุมคุณสมบัติของเมมเบรน การวิเคราะห์สัณฐานวิทยาของเมมเบรน มุมสัมผัส อัตราการไหลผ่านน้ำ และประสิทธิภาพการกรองสารละลายอ้างอิง เป็นการประเมินคุณภาพของเมมเบรนอย่างครบถ้วน ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้เมมเบรนที่มีคุณสมบัติตามต้องการ

ผลการทดลองชี้ให้เห็นว่าเมมเบรนที่ผลิตจากเอทิลีนไกลคอลและสารเติมแต่ง Tween-20 ที่ความเข้มข้น 6 wt% มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเมมเบรนจาก PET ใหม่และ PET รีไซเคิล พบว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ การทดสอบประสิทธิภาพในระดับต้นแบบด้วยน้ำเสียสังเคราะห์และน้ำทิ้งจากอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเมมเบรนในการบำบัดค่า BOD และ COD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และน้ำที่ผ่านการบำบัดมีคุณภาพตามมาตรฐาน นี่เป็นการยืนยันความสำเร็จของงานวิจัยในการพัฒนาเมมเบรนสำหรับการบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การศึกษาในระดับต้นแบบอาจยังไม่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในระดับอุตสาหกรรม จำเป็นต้องมีการขยายขนาดการผลิตและทดสอบในสภาวะจริง นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตเมมเบรนโดยใช้วิธีการนี้ยังต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด การศึกษาผลกระทบระยะยาวของการใช้งานเมมเบรนต่อสิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกประเด็นที่ควรนำมาพิจารณา แม้ว่าการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ระดับหนึ่ง แต่การใช้กรดไตรฟลูโอโรอะซิติกซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นอันตราย ก็จำเป็นต้องมีการจัดการอย่างปลอดภัย การวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดปริมาณการใช้สารเคมี หรือการค้นหาสารทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จะเป็นการเพิ่มมูลค่าและความยั่งยืนของงานวิจัยนี้ได้อย่างมาก

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมการบำบัดน้ำเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่ต้องการระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเมมเบรนที่พัฒนาขึ้นสามารถบำบัดค่า BOD และ COD ได้ดี และมีประสิทธิภาพในการกำจัดสารมลพิษในน้ำเสีย นอกจากนี้ยังเหมาะกับอุตสาหกรรมการรีไซเคิล โดยเฉพาะการรีไซเคิลขยะพลาสติก PET เนื่องจากงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงการนำขยะ PET ที่ใช้งานแล้วมาใช้ในการผลิตเมมเบรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดปริมาณขยะและเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ อุตสาหกรรมการผลิตเมมเบรนเองก็สามารถนำงานวิจัยนี้ไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้เช่นกัน

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะกับนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวัสดุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานด้านวิศวกรรมเคมี วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์วัสดุ เนื่องจากงานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและทดสอบวัสดุใหม่ การออกแบบและสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย และการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังเหมาะกับนักวิจัยที่สนใจด้านการรีไซเคิลและการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้ประกอบการที่สนใจในการผลิตและจำหน่ายเมมเบรนสำหรับบำบัดน้ำเสีย และบุคลากรในหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 7187
หัวหน้าโครงการ : นายวัลลภ กิติสาธร
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : เพื่อวิจัยและพัฒนาเมมเบรนจากพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตสำหรับใช้ในระบบบำบัดน้ำเสียด้วยระบบถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน เพื่อเปรียบเทียบสัณฐานวิทยาและประสิทธิภาพการกรองของเมมเบรนที่ผลิตจากพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตที่ยังไม่ผ่านการใช้งานและเมมเบรนที่ผลิตจากขวดพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตที่ใช้งานแล้ว เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการกรองของเมมเบรนที่พัฒนาในการทดลองระดับต้นแบบ

นายวัลลภ กิติสาธร. (2563). การพัฒนาเมมเบรนพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตสำหรับบำบัดน้ำเสียในถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. กรุงเทพมหานคร.

นายวัลลภ กิติสาธร. 2563. "การพัฒนาเมมเบรนพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตสำหรับบำบัดน้ำเสียในถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. กรุงเทพมหานคร.

นายวัลลภ กิติสาธร. "การพัฒนาเมมเบรนพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตสำหรับบำบัดน้ำเสียในถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2563. กรุงเทพมหานคร.

นายวัลลภ กิติสาธร. การพัฒนาเมมเบรนพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลตสำหรับบำบัดน้ำเสียในถังปฏิกรณ์ชีวภาพแบบมีเมมเบรน. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ; 2563. กรุงเทพมหานคร.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา