การบูรณาการมรดกทางวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมโมเดิร์นศตวรรษที่ 20 ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนำร่องสู่การท่องเที่ยวนวัตวิถีของเมืองอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประเทศไทย
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การบูรณาการมรดกทางวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมโมเดิร์นศตวรรษที่ 20 ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนำร่องสู่การท่องเที่ยวนวัตวิถีของเมืองอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประเทศไทย" นับเป็นงานวิจัยเชิงบูรณาการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ EEC งานวิจัยนี้ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงการนำองค์ความรู้และทรัพยากรที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวนวัตวิถีอย่างยั่งยืน
จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการบูรณาการองค์ความรู้จากหลายสาขาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เริ่มจากการใช้ องค์ความรู้ทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นฐานในการสำรวจ วิเคราะห์ และประเมินคุณค่าของสถาปัตยกรรมโมเดิร์นในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นองค์ความรู้เฉพาะทางที่จำเป็นต่อการทำความเข้าใจและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอย่างถูกต้อง การบูรณาการ เทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาช่วยสร้างระบบฐานข้อมูลสารสนเทศและแอปพลิเคชัน ทำให้การเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมโมเดิร์นเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการบูรณาการ การจัดการการท่องเที่ยว เข้ามาเพื่อวางแผนเส้นทางท่องเที่ยว สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างเป็นระบบ
ความสำคัญของการบูรณาการในระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตามที่ระบุไว้ในบทคัดย่อ แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบและความเข้าใจในกระบวนการทำงาน โดยเริ่มจากการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูล (ต้นน้ำ) การสร้างระบบฐานข้อมูลและแอปพลิเคชัน (กลางน้ำ) และการนำเสนอต่อสาธารณชนและการสร้างรายได้ (ปลายน้ำ) ทำให้กระบวนการทำงานมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจคือการมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน การขยายผลสู่การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น การสร้างเครือข่ายองค์กรระหว่างประเทศก็เป็นอีกกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณค่าของมรดกทางสถาปัตยกรรมของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ควรคำนึงถึงความท้าทายบางประการ เช่น การจัดการกับความแตกต่างของความสนใจและความรู้ของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ตั้งแต่คนรุ่นใหม่ไปจนถึงคนรุ่นก่อน การสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแท้จริง และการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม การประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากการดำเนินโครงการอย่างเป็นรูปธรรมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรได้รับการพิจารณา
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
-
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว: งานวิจัยนี้เสนอแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวนวัตวิถี โดยใช้แหล่งมรดกทางสถาปัตยกรรมเป็นจุดขาย การพัฒนาแอปพลิเคชันและฐานข้อมูลจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยว
-
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ: การพัฒนาแอปพลิเคชันและระบบฐานข้อมูลดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญของงานวิจัยนี้ จึงเหมาะกับอุตสาหกรรมนี้ในการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว
-
อุตสาหกรรมการศึกษา: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นกรณีศึกษา หรือเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการศึกษาในสาขาต่างๆ เช่น สถาปัตยกรรมศาสตร์ การท่องเที่ยว และการจัดการทรัพยากร文化遺産
-
อุตสาหกรรมการอนุรักษ์: งานวิจัยนี้มีประโยชน์ต่อองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมรดกทางสถาปัตยกรรม
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับผู้เชี่ยวชาญและบุคคลากรในหลายอาชีพ ได้แก่:
-
สถาปนิก: สามารถนำองค์ความรู้จากงานวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบและอนุรักษ์อาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
-
นักท่องเที่ยววิทยา: สามารถนำงานวิจัยไปพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว และออกแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
-
นักพัฒนาซอฟต์แวร์: สามารถนำงานวิจัยไปพัฒนาแอปพลิเคชัน และระบบฐานข้อมูลดิจิทัล
-
นักวิชาการ: สามารถนำงานวิจัยไปศึกษา วิเคราะห์ และขยายผลงานวิจัยต่อไป
-
เจ้าหน้าที่รัฐ: ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ และการพัฒนาชุมชน สามารถนำงานวิจัยไปใช้เป็นแนวทางในการวางแผนและดำเนินนโยบาย
| รหัสโครงการ : | 38173 |
| หัวหน้าโครงการ : | รองศาสตราจารย์ ดร. นราธิป ทับทัน |
| ปีงบประมาณ : | 2563 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านเกษตรศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1) พัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวนวัตวิถีและแหล่งเรียนรู้สถาปัตยกรรมโมเดิร์นในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) บนฐานองค์ความรู้ทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ 2) ใช้มุมมองด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์เป็นกรอบในการสำรวจ ถอดความรู้ ยืนยันคุณค่า ถ่ายทอด และนำเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมโมเดิร์น ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วม เพื่อขยายผลสู่การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศดิจิตัลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวนวัตวิถีและแหล่งเรียนรู้สถาปัตยกรรมโมเดิร์น 4) ส่งเสริมภาคีเครือข่ายการอนุรักษ์มรดกสถาปัตยกรรมโมเดิร์นของไทยจากกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้หรือกระบวนการเรียนรู้ |
รองศาสตราจารย์ ดร. นราธิป ทับทัน. (2563). การบูรณาการมรดกทางวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมโมเดิร์นศตวรรษที่ 20 ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนำร่องสู่การท่องเที่ยวนวัตวิถีของเมืองอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประเทศไทย. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก. .
รองศาสตราจารย์ ดร. นราธิป ทับทัน. 2563. "การบูรณาการมรดกทางวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมโมเดิร์นศตวรรษที่ 20 ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนำร่องสู่การท่องเที่ยวนวัตวิถีของเมืองอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประเทศไทย". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก. .
รองศาสตราจารย์ ดร. นราธิป ทับทัน. "การบูรณาการมรดกทางวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมโมเดิร์นศตวรรษที่ 20 ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนำร่องสู่การท่องเที่ยวนวัตวิถีของเมืองอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประเทศไทย". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก, 2563. .
รองศาสตราจารย์ ดร. นราธิป ทับทัน. การบูรณาการมรดกทางวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมโมเดิร์นศตวรรษที่ 20 ร่วมกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อนำร่องสู่การท่องเที่ยวนวัตวิถีของเมืองอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประเทศไทย. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก; 2563. .