กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี

การพัฒนาเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารโดยใช้ปฏิกิริยาเร่งเชิงแสงในการสลาย PM2.5

... 20 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์งานวิจัย

งานวิจัยนี้มุ่งพัฒนาเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารโดยใช้เทคโนโลยีโฟโตคะตะไลติก (photocatalytic) ในการสลาย PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญระดับโลก งานวิจัยได้เลือกใช้ซิงค์ออกไซด์ (ZnO) นาโนขนาดเล็กเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสง เนื่องจาก ZnO มีคุณสมบัติในการเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีประสิทธิภาพภายใต้แสงแดด การนำ ZnO มาผสมกับไฮโดรเจลที่ทำจากอะคริลาไมด์และพอลิไวนิลแอลกอฮอล์นั้นช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสและการยึดเกาะของตัวเร่งปฏิกิริยา ทำให้มีประสิทธิภาพในการดักจับและสลาย PM2.5 ได้ดีขึ้น กระบวนการสังเคราะห์วัสดุนี้ใช้ปฏิกิริยาฟรีแรดิคัลพอลิเมอไรเซชัน ซึ่งเป็นวิธีการที่ค่อนข้างง่ายและสามารถปรับขนาดการผลิตได้

จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการศึกษาตัวแปรต่างๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการสลาย PM2.5 อย่างครอบคลุม รวมถึงการออกแบบ reactor ที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของปฏิกิริยาโฟโตคะตะไลติก การทดสอบประสิทธิภาพใช้แหล่งกำเนิด PM2.5 ที่หลากหลาย เช่น ควันธูป การเผาซังข้าวโพด และเศษใบไม้ ซึ่งช่วยให้ผลการวิจัยมีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในสถานการณ์จริง การวัดปริมาณสารพอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ก่อนและหลังการให้แสง โดยมีค่า p<0.05 แสดงให้เห็นถึงความสามารถของวัสดุในการสลายสารอินทรีย์ใน PM2.5 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจาก PAHs เป็นสารก่อมะเร็ง

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังมีข้อจำกัดบางประการที่ควรพิจารณา เช่น การศึกษาควรขยายขอบเขตไปยังปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีผลต่อประสิทธิภาพของระบบ เช่น ความเข้มข้นของ PM2.5 อุณหภูมิ ความชื้น และชนิดของแสง นอกจากนี้ ควรมีการศึกษาความคงทนของวัสดุ ตลอดจนต้นทุนในการผลิตและความเป็นไปได้ในการผลิตในระดับอุตสาหกรรม การเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ใช้ในการกำจัด PM2.5 ก็จะเป็นประโยชน์ เพื่อประเมินความได้เปรียบของเทคโนโลยีนี้ การวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของกระบวนการผลิตและการใช้งานก็ควรได้รับการพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

โดยสรุป งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่มีศักยภาพสูงในการนำไปใช้พัฒนาเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารที่มีประสิทธิภาพ การใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสงจาก ZnO ที่ผสมกับไฮโดรเจล เป็นแนวทางที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพในการสลาย PM2.5 แต่ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อจำกัดต่างๆ ก่อนนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์

งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด

งานวิจัยนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมด้านการบำบัดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดฝุ่นละออง PM2.5 เหตุผลก็เพราะว่างานวิจัยนี้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลายรูปแบบ เช่น การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ในพื้นที่สาธารณะ โรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้แต่การพัฒนาเป็นเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่สำหรับใช้ในรถยนต์ นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสารเคมี หรืออุตสาหกรรมที่มีการปล่อยฝุ่นละอองออกมา เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมการเกษตร เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน

งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด

งานวิจัยนี้เหมาะสำหรับบุคลากรในหลายอาชีพ อาทิ นักวิทยาศาสตร์ วิศวกรเคมี วิศวกรสิ่งแวดล้อม และนักวิจัยด้านวัสดุศาสตร์ เนื่องจากงานวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์วัสดุ การทดลอง และการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ บุคคลากรในอาชีพเหล่านี้จะมีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการพัฒนา ปรับปรุง และนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับนักวิชาการ อาจารย์ และนักศึกษาที่สนใจศึกษาค้นคว้า และพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบำบัดมลพิษทางอากาศ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ต่อไป

สร้างบทวิเคราะห์โดย Gemini เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
การพัฒนาเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารโดยใช้ปฏิกิริยาเร่งเชิงแสงในการสลาย PM2.5
ภาพนี้สร้างโดย Image GPT เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568
รหัสโครงการ : 30104
หัวหน้าโครงการ : รองศาสตราจารย์.ดร. ชำนาญ ราญฎร
ปีงบประมาณ : 2563
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สาขาวิจัย : กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี
ประเภทโครงการ : โครงการเดี่ยว
สถานะ : ปิดโครงการ
คำสำคัญ :
วัตถุประสงค์ : 1.สังเคราะห์ตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสงที่มีขนาดเล็กระดับนาโนเมตรเพื่อนำไปใช้เป็นตัวเร่งที่เหมาะสมภายใต้แสงอาทิตย์2. ศึกษาตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อความสามารถในการเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสงในการสลาย PM 2.5 PM103. ศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการทำวัสดุประกอบไฮโดรเจล/ตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสง4. ออกแบบ reactor ที่ส่งเสริมการเกิดปฏิกิริยาโฟโตคะตะไลติกให้ดีขึ้น5. เพื่อศึกษาความสามารถเบื้องต้นของระบบบำบัด PM2.5 PM 10 ด้วยกระบวนการโฟโตคะตะไลติก

รองศาสตราจารย์.ดร. ชำนาญ ราญฎร. (2563). การพัฒนาเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารโดยใช้ปฏิกิริยาเร่งเชิงแสงในการสลาย PM2.5. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เชียงใหม่.

รองศาสตราจารย์.ดร. ชำนาญ ราญฎร. 2563. "การพัฒนาเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารโดยใช้ปฏิกิริยาเร่งเชิงแสงในการสลาย PM2.5". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เชียงใหม่.

รองศาสตราจารย์.ดร. ชำนาญ ราญฎร. "การพัฒนาเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารโดยใช้ปฏิกิริยาเร่งเชิงแสงในการสลาย PM2.5". มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2563. เชียงใหม่.

รองศาสตราจารย์.ดร. ชำนาญ ราญฎร. การพัฒนาเครื่องฟอกอากาศภายนอกอาคารโดยใช้ปฏิกิริยาเร่งเชิงแสงในการสลาย PM2.5. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2563. เชียงใหม่.

Creative Commons : CC

Creative Commons
Attribution ให้เผยแพร่ ดัดแปลง โดยต้องระบุที่มา