การพัฒนารูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตามแนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ จังหวัดสกลนคร
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง "การพัฒนารูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตามแนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ จังหวัดสกลนคร" เป็นงานวิจัยเชิงปฏิบัติการที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้และครอบครัว โดยใช้แนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยชุมชนเป็นฐาน จุดเด่นของงานวิจัยนี้คือการเน้นการมีส่วนร่วมของครอบครัว ชุมชน และภาคีเครือข่ายต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน
การวิจัยได้ดำเนินการโดยการศึกษาและวิเคราะห์สภาพสถานการณ์ ปัญหา แนวทาง และความต้องการของครอบครัวเด็กที่มีความต้องการพิเศษ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่หลากหลาย เช่น การสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์เชิงลึก ช่วยให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและลึกซึ้ง การใช้สถิติจำนวน ร้อยละ และการวิเคราะห์เนื้อหาในการวิเคราะห์ข้อมูล แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบและความเป็นวิชาการของงานวิจัย
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยความสำเร็จของรูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) ศักยภาพของครอบครัว ซึ่งหมายถึงความพร้อม ความรู้ และทักษะของผู้ปกครองในการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการของบุตรหลาน 2) การร่วมมือกันของภาคีเครือข่าย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงเรียน สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชน ในการสนับสนุนครอบครัวและเด็ก 3) ศักยภาพและความพร้อมขององค์กร ซึ่งหมายถึงการมีทรัพยากร บุคลากร และกลไกการทำงานที่เหมาะสมในการดำเนินงาน
กิจกรรมเสริมพลังครอบครัวและเด็กแบ่งออกเป็น 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) การเสริมพลังครอบครัว มุ่งเน้นการให้ความรู้ ทักษะ และการสนับสนุนด้านจิตใจแก่ผู้ปกครอง 2) การเสริมพลังแกนนำ มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในชุมชนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรม 3) การเสริมพลังเครือข่าย มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุนครอบครัวและเด็กเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การออกแบบกิจกรรมต่างๆ ที่มีการร้อยเรียงและประสานสอดรับกัน โดยมีครอบครัวและชุมชนเป็นแกนหลัก ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ครอบคลุมหลายมิติ เช่น มิติสุขภาพจิต มิติทางสังคม มิติทางการศึกษา และมิติแกนนำผู้ปกครอง แสดงให้เห็นถึงความครบถ้วนและความยั่งยืนของรูปแบบการเสริมพลังที่พัฒนาขึ้น นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่าย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานแบบบูรณาการ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของงานวิจัยนี้อาจอยู่ที่การศึกษาในพื้นที่จังหวัดสกลนครเพียงแห่งเดียว อาจไม่สามารถสรุปผลได้ทั่วไป การขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นๆ จำเป็นต้องพิจารณาบริบททางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สามารถปรับใช้รูปแบบการเสริมพลังให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม การศึกษาผลระยะยาวหลังจากการดำเนินโครงการ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยประเมินความยั่งยืนและประสิทธิผลของรูปแบบการเสริมพลังที่พัฒนาขึ้น
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมการศึกษา อุตสาหกรรมสุขภาพ และอุตสาหกรรมสังคมสงเคราะห์
- อุตสาหกรรมการศึกษา: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้พัฒนาหลักสูตร วิธีการสอน และนโยบายการสนับสนุนเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม
- อุตสาหกรรมสุขภาพ: งานวิจัยนี้ช่วยให้เข้าใจถึงความต้องการด้านสุขภาพจิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้และครอบครัว ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาบริการด้านสุขภาพจิตที่เหมาะสม
- อุตสาหกรรมสังคมสงเคราะห์: งานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการวางแผน ดำเนินการ และประเมินโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้และครอบครัว เช่น การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็ก การให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน และการฝึกอบรมอาชีพ
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับหลายอาชีพ อาทิ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ครู ผู้ดูแลเด็ก และนักวิจัย
- นักจิตวิทยา: สามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปใช้ในการให้คำปรึกษา การประเมิน และการรักษาเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้และครอบครัว
- นักสังคมสงเคราะห์: สามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปใช้ในการวางแผน ดำเนินการ และประเมินโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้และครอบครัว
- ครู: สามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปใช้ในการปรับปรุงวิธีการสอน และการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้
- ผู้ดูแลเด็ก: สามารถนำความรู้จากงานวิจัยนี้ไปใช้ในการดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ โดยคำนึงถึงความต้องการเฉพาะบุคคล
- นักวิจัย: สามารถนำงานวิจัยนี้เป็นพื้นฐานในการทำวิจัยต่อยอด เพื่อพัฒนารูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น
| รหัสโครงการ : | 186932 |
| หัวหน้าโครงการ : | นางสาวหรรษา องคสิงห์ |
| ปีงบประมาณ : | 2566 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านสังคมศาสตร์ |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | เพื่อศึกษาและวิเคราะห์สภาพสถานการณ์ ปัญหา แนวทางและความต้องการของครอบครัวเด็กที่มีความต้องการพิเศษเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ เพื่อพัฒนารูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตามแนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ จังหวัดสกลนคร |
นางสาวหรรษา องคสิงห์. (2566). การพัฒนารูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตามแนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ จังหวัดสกลนคร. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. สกลนคร.
นางสาวหรรษา องคสิงห์. 2566. "การพัฒนารูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตามแนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ จังหวัดสกลนคร". มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. สกลนคร.
นางสาวหรรษา องคสิงห์. "การพัฒนารูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตามแนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ จังหวัดสกลนคร". มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 2566. สกลนคร.
นางสาวหรรษา องคสิงห์. การพัฒนารูปแบบการเสริมพลังครอบครัวและเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมตามแนวทางการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการโดยชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ จังหวัดสกลนคร. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร; 2566. สกลนคร.