การจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เพื่อพัฒนาผลผลิตสู่เกษตรปลอดภัย
บทวิเคราะห์งานวิจัย
งานวิจัยเรื่อง “การจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เพื่อพัฒนาผลผลิตสู่เกษตรปลอดภัย” เป็นงานวิจัยที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะมาประยุกต์ใช้กับการปลูกผักอินทรีย์ ซึ่งเป็นการบูรณาการองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี การเกษตร และการจัดการความรู้เข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับการผลิตผักอินทรีย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค งานวิจัยนี้มีจุดเด่นหลายประการ ดังนี้
1. การบูรณาการเทคโนโลยีและองค์ความรู้: งานวิจัยไม่ได้เพียงแค่ถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ยังเน้นการจัดการความรู้ การอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อให้เกษตรกรเข้าใจและสามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำข้อเสนอแนะจากเกษตรกรมาปรับปรุงการอบรมแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความยืดหยุ่นของกระบวนการถ่ายทอดความรู้ ทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน
2. การมุ่งสู่เกษตรปลอดภัย: เป้าหมายของงานวิจัยคือการพัฒนาการผลิตผักอินทรีย์สู่เกษตรปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่กำลังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะช่วยลดการใช้สารเคมี ควบคุมคุณภาพของผลผลิต และเพิ่มความยั่งยืนของระบบการผลิต
3. การมีกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย: งานวิจัยนี้มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งเกษตรกรที่มีประสบการณ์และเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจ การมีกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทำให้การขยายผลของงานวิจัยมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
4. การติดตามและประเมินผลอย่างเป็นระบบ: งานวิจัยมีการติดตามและประเมินผลการเรียนรู้ การนำเทคโนโลยีไปใช้ และผลผลิต ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การประเมินก่อนและหลังการอบรม การตรวจเยี่ยม และการสัมภาษณ์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยวัดประสิทธิผลของการถ่ายทอดความรู้ และช่วยปรับปรุงกระบวนการให้ดียิ่งขึ้น
5. การขยายผลสู่ระดับต่างๆ: งานวิจัยตั้งเป้าหมายที่จะขยายผลการนำเทคโนโลยีไปใช้ในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นครัวเรือน องค์กร หน่วยงาน หรือโรงเรียน ซึ่งเป็นการสร้างผลกระทบที่กว้างขวาง และยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ระยะเวลาติดตามผลอาจไม่เพียงพอที่จะประเมินผลกระทบในระยะยาว หรือการขยายผลอาจต้องอาศัยการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นๆ การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับต้นทุนและผลตอบแทนจากการใช้เทคโนโลยี อาจช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของงานวิจัยได้
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอุตสาหกรรมเกษตรกรรมโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตผักอินทรีย์ เหตุผลคือ:
-
เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: เทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตผักอินทรีย์ ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มผลกำไรให้กับเกษตรกร
-
รองรับความต้องการตลาด: ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพของอาหารมากขึ้น การผลิตผักอินทรีย์ด้วยเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะช่วยตอบสนองความต้องการของตลาด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์
-
สร้างความยั่งยืน: การใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะช่วยลดการใช้สารเคมี อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน สอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมเกษตรกรรมโลก
-
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: เกษตรกรที่นำเทคโนโลยีมาใช้จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพใด
งานวิจัยนี้เหมาะกับอาชีพเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกผักอินทรีย์ และผู้ที่สนใจประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม เหตุผลคือ:
-
เพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิต: การใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
-
เพิ่มความรู้และทักษะ: งานวิจัยนี้ช่วยเพิ่มความรู้และทักษะในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำการเกษตร ทำให้เกษตรกรสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้
-
เข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น: การผลิตผักอินทรีย์ที่มีคุณภาพ จะทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออก
-
เพิ่มโอกาสในการพัฒนาอาชีพ: การมีความรู้และทักษะในการใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ จะเปิดโอกาสให้เกษตรกรสามารถพัฒนาอาชีพ และสร้างความก้าวหน้าในอนาคต
| รหัสโครงการ : | 183616 |
| หัวหน้าโครงการ : | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปาณิศา แก้วสวัสดิ์ |
| ปีงบประมาณ : | 2566 |
| หน่วยงาน : | มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี |
| สาขาวิจัย : | กลุ่มข้อมูลด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี |
| ประเภทโครงการ : | โครงการเดี่ยว |
| สถานะ : | ปิดโครงการ |
| คำสำคัญ : | |
| วัตถุประสงค์ : | 1. เพื่อจัดการองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการติดตั้งและใช้งานเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะ2. เพื่อจัดการองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกผักอินทรีย์โดยใช้เทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะ3. เพื่อติดตามและประเมินผลการจัดการองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เพื่อยกระดับสู่เกษตรปลอดภัย |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปาณิศา แก้วสวัสดิ์. (2566). การจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เพื่อพัฒนาผลผลิตสู่เกษตรปลอดภัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี. เพชรบุรี.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปาณิศา แก้วสวัสดิ์. 2566. "การจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เพื่อพัฒนาผลผลิตสู่เกษตรปลอดภัย". มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี. เพชรบุรี.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปาณิศา แก้วสวัสดิ์. "การจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เพื่อพัฒนาผลผลิตสู่เกษตรปลอดภัย". มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี, 2566. เพชรบุรี.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปาณิศา แก้วสวัสดิ์. การจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบเกษตรอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เพื่อพัฒนาผลผลิตสู่เกษตรปลอดภัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี; 2566. เพชรบุรี.